นี่เป็นคำถามที่ฉันถามตัวเองบ่อย ๆ เมื่อปีที่แล้ว เมื่อฉันบังเอิญมีผิวแห้งมาก ๆ บนใบหน้าของฉันและทามอยส์เจอไรเซอร์อย่างหมดหวังเพื่อให้มันหายไป

ประการแรก การให้ความชุ่มชื้นเป็นความคิดที่ดีเสมอ การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมทุกวันเป็นส่วนสำคัญในการดูแลตนเองเช่นเดียวกับการดูแลผิว สิ่งสำคัญคือต้องปรับการดื่มน้ำให้สอดคล้องกับการออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้น เวลาที่ใช้กลางแดด และอื่นๆ ระบบการดูแลผิวที่ดีอีกอย่างหนึ่งคือการให้ความชุ่มชื้น ไม่ว่าคุณจะมีผิวธรรมดาหรือผิวแห้ง การบำรุงผิว (ผิวหน้าและผิวกาย) ด้วยการเสริมการบำรุงเป็นพิเศษและการดูแลตัวเองจะช่วยให้ผิวสดชื่นและอ่อนนุ่มอยู่เสมอ

แต่การรู้ว่าคุณมีผิวประเภทใดจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกวิธีรักษาที่ดีที่สุดได้ ดังนั้นเรามาดูรายละเอียดว่าคุณมีผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง หรือผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (atopic dermatitis) หรือไม่

ถ้าคุณเป็นเหมือนฉัน คือประสบปัญหาผิวแห้งเป็นระยะเวลาสั้นๆ และนานๆครั้ง คุณอาจมีผิวขาดน้ำ หมายความว่าในช่วงเวลานี้ คุณต้องใช้ความพยายามเป็นพิเศษในการใช้ครีมกันแดดก่อนออกไปกลางแจ้ง พยายามดื่มน้ำให้มากขึ้น และใช้ครีมบำรุงผิวที่ดี TIPS: หลังจากไปว่ายน้ำ อย่าลืมอาบน้ำทันทีและทามอยเจอร์ไรเซอร์ (เคล็ดลับนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งและผิวขาดน้ำ)!

หากคุณมีปัญหาผิวแห้ง แสดงว่าคุณไม่ได้ต่อสู้กับผิวที่ขาดน้ำแต่มีโอกาสเป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมากกว่า ปัจจุบัน ผู้คนจำนวนมากไม่คิดว่าตนเองเป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง เพราะคำว่า ‘ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง’ มีความหมายแฝงว่า “สภาพผิวแห้งที่รุนแรงมาก” จริงๆ แล้วผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเป็นศัพท์กว้างๆของปัญหาผิวแห้งอักเสบที่แตกต่างกันตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง อาการทางผิวหนังเหล่านี้ได้แก่: ผิวแห้ง คัน ระคายเคือง อักเสบ และแดง

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (หรือ atopic dermatitis) เป็นภาวะทางผิวหนังที่พบได้บ่อยในเด็ก แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงอายุ ‘การลุกลาม’ ของอาการสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยหรือมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับบุคคลและสภาพแวดล้อมภายนอก หากคุณมีอาการ สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำคือเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว (อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง) ใช้น้ำอุ่น (แทนที่จะเป็นน้ำร้อน) ในห้องอาบน้ำ ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยน และหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่อาจเกิดขึ้น เช่น ฝุ่นละออง เหงื่อและเกสรดอกไม้ หากอาการของคุณรุนแรงจนไม่สามารถทนได้ คุณควรไปพบแพทย์